กว่าจะมาเป็นอาหารเสริมเลือดจระเข้

กว่าจะมาเป็นอาหารเสริมเลือดจระเข้ เดิมที่ ตั้งแต่ 2542 รศ.ดร.วิน เชยชมศรี และ รศ.ดร.จินดาวรรณ สิรันทวิเนติ เริ่มศึกษาเลือดจระเข้เนื่องจากสงสัย ว่าสมัยนั้นฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ได้แจกเลือดจระเข้สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็ง มันช่วยอะไร จึงทำการวิจัยเรื่องเลือดของจระเข้  ระหว่างทำการศึกษา สังเกตว่าจระเข้กัดกันแล้วเกิดบาดแผลฉกรรจ์ ซึ่งจระเข้แช่อยู่ในน้ำแต่แผลกลับไม่เน่าและสามารถใช้เวลาไม่เกิน 1 อาทิตย์ ในการสมานบาดแผล แสดงให้เห็นว่าระบบภูมิคุ้มกันของจระเข้ดีมาก จากการศึกษาพบว่าเลือดจระเข้นั้นมีคุณสมบัติที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะในเลือดจระเข้มีองค์ประกอบหลายอย่างได้แก่โปรตีนและเกลือแร่หลายชนิด ทั้งแคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม วิตามิน เอ บี1 บี2 สมัยก่อนนั้นจระเข้ก็จะเอาไปทำหนัง ขายเนื้อจระเข้ แต่ภูมิปัญญาของนักวิจัยไทยไม่แพ้ใครในโลกได้ คิดค้นเพิ่มมูลค่าเลือดจระเข้ ซึ่งเป็นผลงานของ รศ.ดร.วิน เชยชมศรี และ รศ.ดร.จินดาวรรณ สิรันทวิเนติ อาจารย์ภาควิชาสัตววิทยา คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาขยายผลในเชิงพาณิชย์ ให้ บริษัท ซีเอสจี โปรดักส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ควบคุมโดย รศ.ดร.วิน เชยชมศรี ในการผลิตแคปซูลเลือดจระเข้ฟรีสดราย สำหรับการนำเลือดจระเข้มาทำเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ขั้นตอนสำคัญอยู่ที่การเจาะเลือดต้องให้มีความสะอาดมากที่สุดโดยใช้อุปกรณ์เจาะเลือดที่ได้คิดค้นขึ้นเอง จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ และทำให้เลือดระเหิดแห้งนำมาบดให้ละเอียดก่อนที่จะบรรจุใส่แคปซูลวิเคราะห์ด้านคุณภาพ และตรวจสอบเชื้อจุลินทรีย์เพื่อไม่ให้มีการปนเปื้อน โดยทุกขั้นตอนจะต้องปฏิบัติในห้องปลอดเชื้อเท่านั้น

ปัจจุบันเลือดจระเข้ฟรีซดราย ได้พัฒนากระบวนการผลิตเพื่อให้ได้สาร IGF1 เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเรียกกระบวนการสกัดเลือดจระเข้นี้ว่า ฮีโมไลเสท ภายใต้แบรนด์ เลือดจระเข้วินน์ ซึ่งมี 2 ขนาด คือ เลือดจระเข้วินน์ขวดใหญ่ 100 แคปซูล กับ เลือดจระเข้วินน์ขวดเล็ก 30 แคปซูล 

กว่าจะมาเป็นอาหารเสริมเลือดจระเข้ นั้นต้องใช้เวลา ความรู้ ความอดทนอย่างสูง ขอขอบพระคุณ ทีมงานวิจัย ที่ช่วยให้เพิ่มมูลค่าของเลือดจระเข้จากที่ไม่มีใครต้องการ และยังเป็นอาหารเสริมบำรุงร่างกายผู้ป่วยได้อีกด้วย

เลือดจระเข้ฮีโมไลเสท

เลือดจระเข้ฮีโมไลเสท เป็นอีกผลงานหนึ่งที่วิจัยโดย รศ.ดร.จินดาวรรณ สิรินทวิเนติภาควิชาสัตววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับอนุสิทธิบัตร เลขที่ 14814 กรรมวิธีการผลิตฮีโมไลเสทเลือดจระเข้ชนิดผง “HEMOLYSATE” ฮีโมไลเสตส่วนพิเศษของเลือดจระเข้เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานโดยเฉพาะบำรุงร่างกายเสริมการรักษาในผู้ป่วยเบาหวานเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือดช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นในผู้ป่วยที่มีภาวะแผลเรื้อรัง

หน้าที่การทำงานของ HEMOLYSIS ฮีโมไลเสท

• HEMOLYSIS กระบวนการผลิตพิเศษ จากเลือดจระเข้ มีสาร IGF-1 คล้ายอินซูลินจะทำงานเหมือนอินซูลินของมนุษย์ หลังจากผ่านการดูดซึมเข้าไปแล้ว ก็จะใช้ประโยชน์ในการช่วยจับพวกน้ำตาลในกระแสเลือดเข้าไปใช้ประโยชน์ในกล้ามเนื้อ ดังนั้นเวลาที่ผู้บริโภคทานแล้วเจาะเลือดทำให้พบระดับน้ำตาลน้อยลง
• ในส่วนของโปรตีน วิตามิน ธาตุเหล็กและแร่ธาตุต่างๆในเลือดจระเข้สูตรพิเศษ HEMOLYSIS ฮีโมไลเสท จะเข้าไปช่วยสมานแผล แผลจะแห้ง หายเร็ว

 

 

ประโยชน์พิเศษของสาร IGF-1 โดยเฉพาะ มี 3 ประการ คือ
1. เป็นอาหารสำหรับนักเพาะกาย เพราะ IGF-1 ช่วยเพิ่มขยายขนาดกล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็วมากที่สุดกว่าที่เคยค้นพบ ทั้งยังช่วยเพิ่มพลังงาน พละกำลัง และลดไขมันได้อย่างรวดเร็ว
2. เป็นสารช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดที่มีประสิทธิภาพสูงคล้ายอินสูลิน โดยปกติตับอ่อนในร่างกายมีเซลล์ตับอ่อน 2 ประเภท คือ อัลฟ่าเซลล์ เบต้าเซลล์
3. เป็นสารช่วยซ่อมแซมเส้นประสาท IGF-1 จะเข้าไปช่วยซ่อมแซมเส้นประสาทควบคุมอวัยวะต่างๆ ซึ่งเสียหายจากการบาดเจ็บ หรือสืบเนื่องจากการผ่าตัดหรือป่วยไข้

นักวิจัยเลือดจระเข้

เลือดจระเข้วินน์เป็นอีกผลงานหนึ่งของ รศ.ดร.วิน เชยชมศรี กับ รศ.ดร.จินดาวรรณ สิรันทวิเนติ จากอาจารย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิจัยมานานกว่า 20 ปี วิจัยเลือดจระเข้ระเหิดแห้งจนกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เลือดจระเข้แคปซูล ตราวินน์ Wynn การผลิตที่มีคุณภาพสูงหลายขั้นตอนและยังคงมีสารสำคัญครบถ้วนมากที่สุด

เลือดจระเข้แคปซูลวินน์ ผ่านกระวนพาสเจอร์ไรส์ และฟรีซดราย โดยนำเลือดจระเข้ผ่านกระบวนพาสเจอร์ไรส์โดยไม่เติมสารใดๆ เลือดจระเข้ก็ยังคงคุณภาพของเลือดจระเข้ด้วยกระบวนการฟรีซดราย โดยปราศจากเชื้อโรค แบคทีเรีย และสารปนเปื้อน

นวัตกรรมใหม่ในการเก็บเลือดจระเข้ให้สะอาด จากเดิมสมัยก่อนการทำเลือดจระเข้แห้งนั้น ต้องตากแดดหลายวันกว่าเลือดจะจับกันเป็นก้อนแห้ง จากนั้นจึงนำมาบดให้เป็นผงด้วยโกร่งหรือครก ต่อมามีการนำไปอบแห้งด้วยความร้อนและใช้เครื่องบด ซึ่งกรรมวิธีนี้จะได้เลือดผลแห้งที่ไม่สะอาดเลย ยังนำไปอบด้วยความร้อนยิ่งที่ให้โปรตีนที่มีอยู่มากในเลือดจระเข้ต้องสูญเสียไปอีก

กระบวนการผลิตเลือดจระเข้แห้งที่คงคุณภาพโดยทีมงานวิจัย อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เมื่อเราได้เลือดจระเข้ที่เป็นวัตถุดิบต้นทางที่มีความสะอาดปลอดภัยและปราศจากสิ่งปนเปื้อนมาแล้ว กระบวนการที่สำคัญต่อไปคือ ผลิตให้ได้มาตรฐานทางวิทยาศาสตร์ และคงคุณค่าของสารสำคัญต่างๆในเลือดจระเข้ให้คงอยู่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภคให้มากที่สุด จึงได้เลือกวิธีการทำเลือดจระเข้แห้งด้วยกระบวนการระเหิดแห้งภายใต้ความเย็นจัด (ฟรีซดราย, Freeze Drying) ซึ่งไม่ทำให้โปรตีนในเลือดจระเข้เสียคุณสมบัติ แทนกรรมวิธีดั้งเดิมทั้งการตากแดด การเข้าตู้อบแห้งด้วยความร้อนสูง เมื่อได้เลือดจระเข้แห้งฟรีซดรายที่มีคุณภาพดีแล้ว จึงนำมาทำให้เป็นผงโดยอุปกรณ์ที่สะอาดภายใต้สภาวะที่ปลอดเชื้อ และนำมาบรรจุแคปซูลเพื่อความสะดวกในการรับประทานแทนการทานแบบเดิม